ภัยสุขภาพที่มักมาพร้อมกับ "ฝนตก-น้ำท่วม"
6 ตุลาคม 2567ประเภท : ข่าวประชาสัมพันธ์
ข้อมูลรูปที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถึงฤดูฝน หลายพื้นที่มักเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมและน้ำขัง ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความไม่สะดวกในชีวิตประจำวันแล้ว ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของโรคภัยไข้เจ็บอีกหลายชนิด ดังนั้น การรู้เท่าทันและเตรียมพร้อมรับมือกับโรคที่มากับฝนและน้ำท่วมจึงเป็นสิ่งสำคัญ มาดูกันว่ามีโรคอะไรที่เราต้องระวังและมีวิธีป้องกันอย่างไรค่ะ
1. โรคไข้เลือดออก
ฝนตกหนักทำให้เกิดแอ่งน้ำขังในหลายจุด ซึ่งกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่เป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก อาการของโรคไข้เลือดออกที่พบคือ มีไข้สูงลอย 2-7 วัน ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ มีผื่นแดงขึ้นตามตัว คลื่นไส้ และอาเจียน หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ค่ะ
วิธีป้องกัน:
- กำจัดแหล่งน้ำขัง: ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายด้วยการคว่ำภาชนะเก็บน้ำ ปิดฝาถังน้ำ หรือใส่ทรายกำจัดลูกน้ำในภาชนะที่ต้องการเก็บน้ำ
- ใช้ยากันยุง: ทายากันยุงหรือสเปรย์ไล่ยุงที่มีส่วนผสมของ DEET เพื่อป้องกันยุงกัด โดยเฉพาะเมื่อต้องออกไปนอกบ้านหรืออยู่ในพื้นที่ที่มียุงชุกชุม
- นอนในมุ้ง: หากพื้นที่ของคุณเป็นแหล่งแพร่พันธุ์ยุง ควรนอนในมุ้งหรือใช้มุ้งลวดป้องกันยุงเข้ามาในบ้าน โดยเฉพาะเด็กเล็กควรได้รับการป้องกันเป็นพิเศษ
.
2. โรคตาแดง
น้ำท่วมมักทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคในน้ำ รวมถึงเชื้อที่ทำให้เกิดโรคตาแดง ซึ่งสามารถติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสอุปกรณ์ส่วนตัวที่ใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดตัว หรือแม้แต่การขยี้ตาหลังจากสัมผัสเชื้อ
วิธีป้องกัน:
- ล้างมือบ่อยๆ: ใช้สบู่และน้ำสะอาดล้างมือเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังจากสัมผัสน้ำท่วม น้ำสกปรก หรือน้ำที่อาจปนเปื้อนเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตา: เมื่อตาเกิดอาการคันหรือระคายเคือง ควรหลีกเลี่ยงการขยี้ตาโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ตาและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
- แยกของใช้ส่วนตัว: ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอน และเครื่องสำอางที่ใช้แต่งบริเวณรอบดวงตา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
.
3. โรคระบบทางเดินหายใจ
ในช่วงที่อากาศชื้นและฝนตกบ่อย การระบายอากาศในบางพื้นที่ไม่ดี ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในอากาศ เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือโรคปอดบวม อาการที่พบได้บ่อยคือ ไข้สูง เจ็บคอ คัดจมูก และมีน้ำมูก
วิธีป้องกัน:
- รักษาความสะอาดส่วนตัว: ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกครั้งหลังจากสัมผัสสิ่งของที่อาจมีเชื้อโรคติดอยู่ หรือต้องใช้ในที่สาธารณะ เช่น ลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์
- สวมหน้ากากอนามัย: เมื่อออกไปในที่สาธารณะหรือต้องอยู่ในที่ที่มีคนแออัด ควรสวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อผ่านทางละอองฝอยจากการไอหรือจาม
- เลี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วย: ถ้ามีคนรอบตัวป่วย ควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยเฉพาะในช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันของเราต่ำลง
.
4. โรคน้ำกัดเท้า
เมื่อต้องเดินลุยน้ำหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นนานๆ ผิวหนังจะเกิดอาการอักเสบ บวมแดง และอาจเกิดแผลติดเชื้อได้ง่าย
วิธีป้องกัน:
- สวมรองเท้าบู๊ท: หากต้องลุยน้ำเป็นเวลานาน ควรสวมรองเท้าบู๊ทหรือรองเท้าที่มีการป้องกันน้ำ เพื่อป้องกันการสัมผัสกับเชื้อโรคในน้ำโดยตรง
รีบเช็ดเท้าให้แห้ง: หลังจากที่ต้องลุยน้ำ ควรรีบล้างเท้า- ให้สะอาดด้วยสบู่และเช็ดให้แห้งทันที เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย
- ใช้ยาฆ่าเชื้อเมื่อมีบาดแผล: หากมีแผลที่เท้า ควรใช้ยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์เช็ดแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และหากมีอาการอักเสบหรือบวมมากขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ
.
5. โรคฉี่หนู
โรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส เกิดจากการสัมผัสน้ำที่ปนเปื้อนฉี่ของสัตว์ เช่น หนู อาการที่พบบ่อยคือ มีไข้สูง ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ และตาแดง
วิธีป้องกัน:
- เลี่ยงการลุยน้ำที่ไม่สะอาด: หากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการลุยน้ำท่วมที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรค โดยเฉพาะหากมีบาดแผลที่ผิวหนัง เพราะเชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผลได้
- ดูแลความสะอาดที่พักอาศัย: ทำความสะอาดบริเวณที่พักเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งซ่อนตัวของหนู เช่น การเก็บขยะอย่างมิดชิด และปิดรูรั่วที่หนูอาจเข้ามาในบ้านได้
.
6. โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร
การบริโภคอาหารที่ไม่สะอาดหรือปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น อาหารที่ไม่ปรุงสุกหรือไม่ได้เก็บรักษาอย่างถูกสุขลักษณะ อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียหรือโรคบิด
วิธีป้องกัน:
- ดื่มน้ำสะอาด: ควรดื่มน้ำที่ผ่านการต้มสุก หรือน้ำที่มั่นใจว่าสะอาดและไม่มีการปนเปื้อน
- รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่: หลีกเลี่ยงอาหารที่ค้างคืนหรืออาหารที่ไม่ได้รับการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง เช่น อาหารที่วางทิ้งไว้โดยไม่มีการปิดฝา เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้ามาปนเปื้อน
- ล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหาร: ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนการรับประทานอาหาร และหลังการใช้ห้องน้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจเข้าสู่ร่างกายทางปาก
.
สุดท้ายนี้ก็อยากฝากเอาไว้ว่า ในช่วงที่ฝนตกหนักและน้ำท่วมเช่นนี้ ก็อย่าลืมติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและคนที่คุณรักนะคะ
.