ประชาสัมพันธ์การรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปี 2561
1 มกราคม 2561ประเภท : ข่าวประชาสัมพันธ์
ข้อมูลรูปที่เกี่ยวข้อง
สำหรับผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
- สัญชาติไทย
- มีอายุ 59 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ในกรณีที่ทะเบียนราษฎร์ระบุเฉพาะปีเกิด ให้ถือว่าบุคคลนั้นเกิดวันที่ 1 มกราคมของปีนั้น เช่น เกิด พ.ศ. 2497 ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม 2497
- ขอรับเบี้ยตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
- ไม่เป็นผู้ที่ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเทศบาล อบต. ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือเทศบาล อบต.จัดให้เป็นประจำ ยกเว้นผู้พิการและผู้ป่วยเอดส์ตามระเบียบ
สำหรับกำหนดเปิดรับลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2563 มีระยะเวลาลงทะเบียน ตั้งแต่เดือน 1 มกราคม – 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 โดยแบ่งออกเป็น 2 รอบ ดังนี้
-
ลงทะเบียนช่วงเดือนมกราคม ถึง กันยายน 2561
จะเริ่มได้รับเงินผู้สูงอายุงวดแรกในเดือนถัดไป จากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์เลย เช่น เกิดเดือนสิงหาคม 2502 ก็จะเริ่มได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือนกันยายน 2562 -
ลงทะเบียนช่วงเดือนตุลาคม ถึง พฤศจิกายน 2561
จะเริ่มได้รับเงินผู้สูงอายุงวดแรกตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 เป็นต้นไป
หลักฐานสำหรับการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
-
กรณีผู้สูงอายุลงทะเบียนด้วยตนเอง
- บัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด
- ทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด
- สมุดบัญชีเงินฝาก(ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด (ธนาคารออมสิน หรือ กรุงไทย เท่านั้น)
-
กรณีมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นมายื่นคำขอรับเงินแทนได้ ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
- หนังสือมอบอำนาจ (แบบฟอร์มมอบอำนาจขึ้นอยู่กับการดำเนินการของแต่ละพื้นที่ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
- ทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้เงินเท่าไหร่?
การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปัจจุบัน จะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นรายเดือนต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ตลอดชีวิต โดยหน่วยงานที่ดูแล ต้องจ่ายเบี้ยยังชีพภายในวันที่ 10 ของเดือน เป็นอัตราเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดตามช่วงอายุ ดังนี้
- อายุ 60-69 ปี ได้รับเงิน 600 บาท/เดือน
- อายุ 70-79 ปี ได้รับเงิน 700 บาท/เดือน
- อายุ 80-89 ปี ได้รับเงิน 800 บาท/เดือน
- อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเงิน 1,000 บาท/เดือน
นอกจากนี้ ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินเพิ่มในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกด้วย ตามหลักเกณฑ์ คือ
- รายได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี : ได้รับเงินเพิ่ม 50 บาท/เดือน
- รายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี : ได้รับเพิ่ม 100 บาท/เดือน